ใครมีปัญหาสิวและไม่รู้จัก La Roche-Posay: Effaclar K+ และ Effaclar Duo+
ถือว่าตกเทรนสุดๆ เพราะพวกนางเป็น skincare ที่เคลมเรื่องสิว คนเป็นสิวใช้ได้ ผิวแพ้ง่ายใช้ดี
แถมตัว Duo+ ก็ยังใช้เทคโนโลยี Skin Microbiome สุดเจ๋งอีกด้วย
และ!!! ราคาถือว่าน่ารักเลยทีเดียว ไม่แพงมาก รวมถึงประสิทธิภาพดี
เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมล่า ^^
ถือว่าตกเทรนสุดๆ เพราะพวกนางเป็น skincare ที่เคลมเรื่องสิว คนเป็นสิวใช้ได้ ผิวแพ้ง่ายใช้ดี
แถมตัว Duo+ ก็ยังใช้เทคโนโลยี Skin Microbiome สุดเจ๋งอีกด้วย
และ!!! ราคาถือว่าน่ารักเลยทีเดียว ไม่แพงมาก รวมถึงประสิทธิภาพดี
เริ่มสนใจกันแล้วใช่ไหมล่า ^^
หากถามว่า La Roche-Posay:
“Effaclar K+” หรือ “Effaclar Duo+” ดีกว่ากัน ?
“Effaclar K+” หรือ “Effaclar Duo+” ดีกว่ากัน ?
มาค่ะ!
Bonnie เอา 2 นางนี้มาชำแหละเทียบสารสำคัญแบบหมัดต่อหมัดกันไปเลย !!!
* LHA มีความอ่อนโยนและระคายเคืองน้อยกว่า BHA
Bonnie เอา 2 นางนี้มาชำแหละเทียบสารสำคัญแบบหมัดต่อหมัดกันไปเลย !!!
* LHA มีความอ่อนโยนและระคายเคืองน้อยกว่า BHA
** บริเวณสีเทาคือส่วนประกอบที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน
จากตารางจะเห็นได้ว่า จุดที่ต่างกันชัดๆ ระหว่าง
2 ตัวนี้ คือ
K+ เน้นสารต้านอนุมูลอิสระ
(Antioxidant)
แต่ Duo+ เน้น Prebiotic และช่วยลดรอยสิว
แต่ Duo+ เน้น Prebiotic และช่วยลดรอยสิว
มาขยายความกันหน่อยดีกว่าจะได้เห็นภาพชัดเจนขึ้น
เริ่มที่ Antioxidant ช่วยรักษาสิวยังไง? [1,2]
จากการศึกษาพบว่า เมื่อไขมันและน้ำมันบนผิวเกิด oxidation จะทำให้เกิด “กรดไขมัน” และเกิดการอักเสบของผิว สิ่งที่ตามมาคือมีการกระตุ้นการผลิตน้ำมันบนผิวที่มากขึ้น กระตุ้นการสร้างเซลล์ขี้ไคลในรูขุมขน
ทำให้เกิดการอุดตันของผิวนั่นเอง (การศึกษายังพบอีกว่า ในผิวของคนที่เป็นสิวจะมีปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระ หรือ Antioxidant
น้อยกว่าคนที่ผิวปกติ)
แล้ว Prebiotic ช่วยรักษาสิวยังไง? [3]
Prebiotic เป็นอาหารของแบคทีเรีย ช่วยให้แบคทีเรียชนิดดีบนผิวเติบโต (ซึ่ง Bonnie
เคยอธิบายไปแล้ว คลิก skinmicrobiomeกับผิว) โดยตัว Effaclar Duo+ มี Prebiotic คือ Vitreoscilla ferment และ
mannose สาร 2 ตัวนี้จะช่วยฟื้นฟูจุลินทรีย์ประจำถิ่นของผิว
ทำให้ผิวแข็งแรง และทำให้เชื้อ Staphylococcus (แบคทีเรียก่อสิว)
มีสัดส่วนที่น้อยลง สรุปคือช่วยสร้างสมดุลของแบคทีเรีย
ลดการเกิดผื่นแพ้ผิวหนัง และลดการอักเสบของสิวที่เกิดจากเชื้อ Staphylococcus นั่นเอง!
สรุป!!! จากความเห็นของ Bonnie
Effaclar K+ และ Effaclar
Duo+ มีจุดเด่นคนละแบบ
-
หากเพื่อนๆ มีสภาพผิวที่มีความมันมาก
รูขุมขนกว้าง มีสิวอุดตันเยอะ การเลือก Effaclar K+ จะตอบโจทย์
-
แต่หากมีสภาพผิวที่อ่อนแอ
มีผิวแดง ผิวอักเสบ สิวอักเสบ และรอยสิว รวมถึงผู้ที่เคยใช้ skincare มาเยอะแล้วสิวก็ยังไม่หาย การเลือก Effaclar
Duo+ ก็ตอบโจทย์มากกว่า
Tip: หากเพื่อนๆ มี skincare ที่มีสาร antioxidant อยู่แล้ว การเลือก Effaclar Duo+ ก็น่าจะมีประโยชน์กับผิวเรามากกว่านะจ้ะ
ยังไงเลือกซื้อ skincare อย่าลืมดูสารสำคัญด้วยน้า!!
^^
#missbonnie #กูรูผิวสวย #skinmicrobiome #LaRoche #ลาโรช #ลาโรชโพเซย์ #LaRochePosay #EffaclarK #EffaclarDuo #รักษาสิว #ครีมลดสิว #ลดสิว
References
1.Bowe WP,
Logan AC. Clinical implications of lipid peroxidation in acne vulgaris: old
wine in new bottles. Lipids in health and disease. 2010 Dec;9(1):141.
2.Makrantonaki
E, Ganceviciene R, Zouboulis CC. An update on the role of the sebaceous gland
in the pathogenesis of acne. Dermato-endocrinology. 2011 Jan 1;3(1):41-9.
3.Barnard E, Shi B, Kang D, Craft N, Li H. The balance of metagenomic elements shapes the skin microbiome in acne and health. Scientific reports. 2016 Dec 21;6:39491.
3.Barnard E, Shi B, Kang D, Craft N, Li H. The balance of metagenomic elements shapes the skin microbiome in acne and health. Scientific reports. 2016 Dec 21;6:39491.
สนใจเวชสำอางหรือปรึกษาปัญหาผิว โดยทีมงานเภสัชกร สามารถติดต่อได้ที่
FB: Miss Bonnie Skincare - เวชสำอางโดยเภสัชกร
0 ความคิดเห็น